Where do you keep your mobilephone normally?
ปกติเก็บมือถือของท่านไว้ที่ใหน
This morning I heard a true and sad story from a colleague of mine.
เมื่อเช้านี้ได้รับข่าวที่น่าสลดใจจากเพื่อนคนหนึ่ง
>> She told me one of her friends is always having abortions.
เธอเล่าว่าเพื่อนเธอคนหนึ่งแท้งค์ลูกตลอดเวลา
When the fetus gets to be 2-3 months old she loses it.
เมื่อตั้งท้องได้ 2-3 เดือนเธอก็ต้องเสียเด็กไป
This happened several times over.
เกิดขึ้นอย่างนี้สองสามหนแล้ว
The couple went to check with many doctors and at last one of the doctors examined the dead baby and found that the baby's body cells kept dying as the baby was growing in the womb until he/she could not survive.
สามี-ภรรยาจึงได้ไปหาหมอตรวจหาสาเหตุจากหมอหลายคน
และในที่สุดก็ได้ให้หมอคนหนึ่งทำการชันสูตรศพเด็กอ่อนและก็ได้พบว่า
เซลล์ร่างกายของเด็กอ่อนได้ตายอย่างต่อเนื่องในครรน์ของมารดา จนในที่สุดก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้
This was because her uterus was affected by mobilephone Radiation.
The doctor told her she now has no chance to give birth to a healthy
baby because the radiation has affected her uterus so that the major
portion of the cells in her uterus have already died.
ทั้งนี้เพราะว่าการกระจายรังสีของโทรศัพย์มือถือมีผลต่อมดลูกของเธอ
แพทย์ได้บอกเธออีกว่า เธอจะไม่มีโอกาศที่จะกำเหนิดบุตรที่แข็งแรงได้
เนื่องจากรังสีจากโทรศัพย์มือถือมีผลร้ายแก่มดลูกของเธอ
ทำให้เซลล์ส่วนใหญ่ในมดลูกได้ถูกทำลายและตายไป
This happened because she has been keeping her mobile phone in herworking jacket so that the phone rested against just on the right spot of the uterus.She had been wearing it like this for a few years.
สาเหตุ ที่เกิดขึ้นอย่างนี้เพราะว่าเธอได้ใส่โทรศัพย์มือถือไว้ในกระเป๋าเสือเจ็ก เก็ตตลอดเวลา และโทรศัพย์มือถือจะอยู่ในตำแหน่งมดลูกพอดี
ซึ่งเธอได้ใส่ในกระเป๋าเสื้ออย่างนี้มา 2-3 ปีแล้ว
Please beware of this and take note if you don't want what has
happened to this woman .. happen to your dearest friend.
ได้โปรดให้ความสนใจและระมัดระวังถ้าคุณไม่อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมาเกิดขึ้นกับเพื่อนรักของคุณ
Please do not ignore hand phone radiation which will damage our health or body organs. Please put away your hand phone whenever you don't need it much.
โปรดอย่าละเลยและไม่ให้ความสนใจกับการกระจายรังสีจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถทำลายสูขภาพและส่วนต่างๆภายในร่างกาย
โปรดเก็บมือถือของคุณให้อยู่ห่างๆตัวคุณในขณะที่ไม่ได้ใช้
Guys, Please do not keep your mobile phone near to the kidney position
and pants pocket as this will damage your genital area and affect your
ability to father a baby.
คุณผู้ชายก็ต้องระมัดระวังไม่เก็บมือถือของคุณอยุ่ไกล้กับตับและในกระเป๋ากางเกง
เพราะรังสีจะไปทำความเสียหายและทำลายในบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งมีผลต่อการมีลูก
The other doctor also advised another friend to keep her hand phone
away from her new born baby to avoid radiation damage to the baby's
brain cells.
แพทย์ อีกคนหนึ่งยังได้แนะนำเพื่อนอีกคนว่า.. ให้เก็บโทรศัพย์มือถือไว้ห่างๆจากเด็กแรกเกิด เพื่อป้องกันเซลล์สมองถูกทำลายจากการกระจายรังสี
Do not let the baby or toddler play with the mobile phone. This is because the small young baby or toddler is still very fragile and
growing, so he/she is much more vulnerable to radiation damage.
อย่า ให้เด็กอ่อนหรือเด็กเล็กๆเล่นโทรศัพท์มือถือ เพราะว่าเซลล์ต่างๆของร่างกายกำลังเจริญเติบโตและมีความบอบบาง ถูกทำลายได้ง่ายจากการกระจายรังสี
Please remember not to sleep together with your mobile phone or put it next to your bed. Keep any other electronic goods (such as tvs) whichalso give off radiation away from your bedroom
to reduce risk as we have to sleep a few hours every day in our bedroom at night.
และโปรดจำไว้ด้วยว่าอย่าเก็บโทรศัพย์ไว้ไกล้ตัวในขณะนอนหลับ
และให้เอาอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคเช่น ทีวี ออกจากห้องนอน
ซึ่งทีวีก็มีการกระจายรังสีด้วยเหมือนกัน จะช่วยป้องกันการได้รับรังสีในขณะที่นอนหลับไม่กี่ชัวโมงทุกวัน
Further, do not imagine that if you switch off the TV there will be no
radiation. Actually it is still around in your room. It is not
advisable to have even a small digital alarm clock close to your head
while sleeping.
และ มากไปกว่านั้นอย่าคิดว่าปิดทีวีแล้วจะไม่มีรังสี ยังคงมีอยู่ในห้อง และไม่แนะนำให้มีนาฬิกาปลุกอิเล็คโทรนิคไว้ไกล้หัวในขณะที่นอนหลับ
Take Care of yourself and your loved ones.
Please pass this on to your friends and family.
I would rather be careful than regret not knowing
ดูแลตัวเองและคนที่คุณรักด้วย
โปรดส่งผ่านไปยังคนในครอบครัวและเพื??อนๆด้วย
ฉันจะระวังมากกว่าที่จะ
Sumber : Email
Saturday, May 2, 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment